“เคพกูสเบอร์รี่” หรือที่คนไทยรู้จักดีในชื่อ “โทงเทงฝรั่ง” ผลไม้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เป็นพืชในตระกูลเดียวกับเบอร์รี มะเขือ มะเขือเทศ และมันฝรั่ง นิยมรับประทานแบบผลสด รับประทานกับสลัด ปั่นเป็นน้ำผลไม้ และนำไปทำแยม แต่ทว่านอกจากการทานผลแล้ว ใบ และลำต้น ยังสามารถนำไปทำยา รักษาโรคได้หลากประเภทได้ดีอีกด้วย
ส่วนดอก ออกดอกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ ก้านดอกมีความยาวได้ประมาณ 1 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงดอกยาวประมาณ 4-5 มิลลิเมตร แฉกลึกประมาณกึ่งหนึ่ง มีขนกระจาย มีเส้นกลีบเป็นสีเข้ม ส่วนกลีบดอกมีลักษณะเป็นรูประฆัง บานคล้ายรูปกงล้อ เป็นสีเหลืองอ่อน เหลืองอ่อนแกมเขียว หรือเป็นสีขาว ผล มีกลีบเลี้ยงที่ขยายหุ้มจนมิดผล มีลักษณะบาง มีสัน 10 สัน ตรงสันมีเส้นสีม่วงตามยาว ผิวเป็นเส้นแบบร่างแห ลักษณะของผลภายในเป็นรูปรีเกือบกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร ผลอ่อนกลมใสเป็นสีเขียวอ่อน เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก ส่วนเมล็ดมีลักษณะกลมแบน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.2-0.3 มิลลิเมตร เมล็ดมีเมือกหุ้มคล้ายกับมะเขือเทศจำนวนมาก โดยจะติดผลในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม
ด้านประโยชน์ของเคพกูสเบอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามิน C ที่สูงช่วยป้องกันอาการไข้หวัดและภูมิแพ้ มีวิตามิน A ช่วยในการบำรุงสายตา ช่วยให้ผมดกดำ และผิวพรรณ อีกทั้งยังมีโปรตีนสูง มีวิตามิน บี1 และบี2 มีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังพบสารแคโรทีนอยด์ที่เป็นสารช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและและโรคหัวใจ มีสรรพคุณทางยาสามารถใช้เป็นยาภายใน แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไอมีเสมหะ หอบหืด แก้อาการโรคในช่องปาก ลิ้นอักเสบ น้ำปัสสาวะเป็นสีเหลือง ใช้เป็นยาขับพยาธิ และแก้โรคต่อมทอมซิลอักเสบได้ดีอีกด้วย
ใช้ทั้งต้นแห้ง 1/2 กิโลกรัม นำมาต้มกับน้ำ เติมน้ำตาลกรวดลงไปเพิ่มความหวานเล็กน้อย โดยให้รับประทานหลังอาหารครั้งละ 1/4 ถ้วยแก้ว วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 10 วัน และให้หยุด 3 วัน หลังจากนั้นให้รับประทานต่อไปอีก 10 วัน แล้วก็พักอีก 3 วัน แล้วค่อยรับประทานต่อไปอีก 10 วัน อาการของหอบหืดจะดีขึ้น
เคพกูสเบอร์รี่แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง
นำต้นแห้ง 500 กรัม ผสมน้ำเชื่อม 500 ซี.ซี. รับประทานครั้งละ 50 ซี.ซี. วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร 10 วัน ( 1 รอบของการรักษา) รับประทานติดต่อกัน 3 รอบ โดยแต่ละรอบให้พัก 3 วันแล้วค่อยรับประทานรอบต่อไป
ที่มา:เกษตรกรก้าวหน้า