การปลูกมะระจีน (Gourd) แบบละเอียด สร้างรายได้ดี
การปลูกมะระจีน (Gourd) แบบละเอียด เพื่อสร้างรายได้สำหรับผู้ปลูก การปลูกมะระจีนได้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ และเป็นมะระที่มีการนำเข้ามาจากประเทศจีนเป็นหลัก ด้วยผลที่มีขนาดใหญ่ และมีผลที่สวยงาม ทำให้มะระจีนได้เป็นอีกพืชผักที่มีประโยชน์และสรรพคุณมากมายทางยา
มะระจีนได้ปรับปรุงพันธุ์ให้มีลักษณะเหมาะสมต่อการปลูกในประเทศไทยเพราะมะระจีนได้มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น แถมการบริโภคยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการปลูกและการขยายพันธุ์ต้องดีและมีคุณภาพ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกต้องใส่ใจเกี่ยวกับการปลูกเพื่อผลิตภาพที่ดี มะระจีนจึงได้รับความนิยมในการนำมารับประทานมากที่สุดในตอนนี้ เนื่องจากมีผลขนาดใหญ่ เนื้อหนา รสชาติไม่ขมมากเหมือนมะระไทย แต่มะระไทยก็มีรสชาติที่พอรับประทานได้ แต่ไม่อร่อยเหมือนมะระจีน
มะระจีน เป็นพืชล้มลุกเพียงปีเดียวโดยมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน มีลักษณะลำต้นเป็นเถาเลื้อยยาวตามพื้นดินหรือตามต้นไม้ที่ขึ้นรอบข้าง ลำต้นของมะระจีนเป็นเหลี่ยม ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดพอดี ใบเว้าเป็นแฉกลึก 5-7 แฉก ขอบใบเป็นร่องห่าง มีขนสากตามลำต้น และใบ ดอกมีสีเหลืองออกตามช่อใบ ผลดิบมีลักษณะสีเขียวอ่อน ผิวขรุขระเป็นร่องกว้างตามแนวยาวของผล ผลมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-7 ซม. ยาว 15-25 ซม. เนื้อหนาประมาณ 0.5-1 ซม.
มะระจีน ถือเป็นผักที่นิยมรับประทานมากสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน เนื่องจากมีสารประกอบหลายชนิดที่ได้จากมะระจีน เช่น แคแรนทิน (charantin), โพลีเปปไทด์ พี (p-insulin) และวิซิน (vicine) ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ ทำให้มะระจีนได้เป็นผักที่มีประโยชน์ และสรรพคุณทางยามากมาย ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจึงควรหันมารับประทานมะระจีน เพื่อป้องกันและลดการเกิดอาการของโรคเบาหวาน
การปลูกมะระจีน (Gourd) สร้างรายได้
มะระจีนสามารถปลูกได้ดีในทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือหรือในช่วงปลายฝนจนถึงฤดูหนาว สามารถปลูกได้ในทุกสภาพดิน แต่จะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ดินร่วนปนทรายหรือดินที่มีหน้าดินลึก โดยใช้วิธีการหยอดเมล็ดหรือปลูกจากต้นกล้าเท่านั้น หากผู้ปลูกปลูกด้วยวิธีอื่นก็อาจจะทำให้มะระจีนเจริญเติบโตได้ไม่ดีพอ
การปลูกในแปลง
การปลูกมะระในแปลงสามารถปลูกด้วยวิธีการยกร่องแปลงสำหรับพื้นที่ลุ่มเป็นดินเหนียว และมีน้ำขังเล้กน้อย ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาในเรื่องน้ำท่วมหรือน้ำขังอาจไม่จำเป็นต้องยกร่องก็ได้ เพราะจะไม่เป็นปัญหามากนัก
การเตรียมดิน
- ขั้นตอนแรกให้เราทำการไถพรวนดิน พร้อมกำจัดวัชพืช และตากแดดประมาณ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของดินที่เราจะใช้ปลูก เพื่อการปลูกที่ดีและมีคุณภาพ
- ให้เราทำแนวปลูกด้วยการขึงเชือกหรือกะระยะ ในระยะระหว่างแถว 1-1.5 เมตร
- ทำการไถตามจุดของแนวปลูกตามแนวยาวของแปลงให้เป็นร่องลึกประมาณ 30 ซม. เกษตรกรบางรายอาจไม่ไถเป็นร่อง และหว่านปุ๋ยทั่วตลอดแปลงซึ่งจะทำให้เกิดการสิ้นเปลืองปุ๋ยเสียเปล่า แต่การหว่านปุ๋ยทั้งแปลงจะเหมาะสำหรับแปลงที่ยกร่องปลูก แล้วจึงไถกลบ
- หว่านโรยปุ๋ยหมักหรือมูลโค ปริมาณ 1000 กก./ไร่ และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 30 กก./ไร่
- ทำการไถกลบหรือกลบแนวร่อง ตากดิน 2-3 วัน
การเตรียมกล้า
- ทำการเพาะกล้าในกระบะเพาะกล้า โดยใส่ดินผสมมูลสัตว์หรือวัสดุอื่นๆ เช่น ขี้เถ้า กากมะพร้าว เป็นต้น
- รดน้ำให้ชุ่ม วันละ 1-2 ครั้ง เช้า-เย็น
- กล้าที่เริ่มแตกใบ 4-6 ใบ หรือ 15-20 วัน สามารถนำมาปลูกได้
วิธีการปลูก
- การปลูกด้วยกล้ามะระ ให้ปลูกในระยะห่างของหลุมขนาด 1.5-2 เมตร
- การปลูกด้วยการหยอดเมล็ด ให้หยอดเมล็ด 1-2 เมล็ด/หลุม ในระยะห่างของหลุมเช่นเดียวกัน
- หลังการปลูกหรือหลักการหยอดเมล็ดเสร็จ ต้องรดน้ำหลุมปลูกให้ชุ่ม
การให้น้ำ
จะเริ่มให้น้ำตั่งแต่ปลูกเสร็จทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง จนถึงก่อนระยะการเก็บเกี่ยวครั้งสุดท้าย 1-2 ครั้ง ซึ่งอาจให้น้ำด้วยระบบสเปรย์ ระบบน้ำหยด และการให้น้ำแบบแรงงานคน
การใส่ปุ๋ย และการกำจัดวัชพืช
จะให้ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง นับตั้งแต่หลังการปลูกจนถึงประมาณ 1 เดือน ก่อนหมดผลเก็บเกี่ยว ปุ๋ยที่ให้ควรเป็นปุ๋ยคอกผสมกับปุ๋ยเคมีใน 2 ช่วง คือ
- ช่วงหลังปลูก-ก่อนออกดอก ใช้สูตร 16-16-8
- ช่วงเริ่มออกดอก-เก็บผล ใช้สูตร 12-12-24
ดังนั้น เราควรกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นทุกครั้งก่อนการใส่ปุ๋ย เพื่อผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ ให้เหมือนกับมะระจีนที่ประเทศไทยเราได้นำเข้า เพื่อความอร่อยของมะระจีนที่เราปลูก ดังนั้นเราควรจะใส่ใจและได้ผลผลิตที่ตรงตามความต้องการ
การทำค้าง
ทำการทำค้างหลังการปลูกด้วยการขุดหลุมฝังเสาในระยะ 1.5-2 เมตร ของระหว่างหลุมตลอดตามแนวยาว ซึ่งอาจฝังตรงพร้อมกับทำค้างพาดตรงไปยังอีกแถวหรือโน้มเสาพาดทับกับอีกแถว โดยให้มีความสูงประมาณ 1.5-2 เมตร
การปลูกในกระถาง
- การปลูกในกระถางอาจใช้วัสดุที่เป็นกระถางพลาสติก กระถางดินเผาหรือกระถางประยุกต์จากวัสดุอุปกรณ์เหลือใช้ต่างๆ ซึ่งจะต้องเจาะรูระบายน้ำด้านล่าง
- วัสดุดินปลูกควรผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักร่วมกับปุ๋ยเคมีในสูตรข้างต้นเพียงเล็กน้อย
- จำนวนหลุมหรือต้นที่ปลูกจะขึ้นอยู่กับขนาดกระถาง แต่โดยปกติจะปลูกกระถางละหลุมหรือกระถางต่อต้นเท่านั้น
- การปลูกอาจใช้วิธีการปลูกด้วยต้นกล้าหรือเมล็ด แต่การปลูกวิธีนี้มีเพียงปริมาณน้อยจึงนิยมใช้วิธีการหยอดเมล็ดเท่านั้น โดยใช้เพียง 1-2 เมล็ด/กระถาง
- หลังปลูกจะต้องให้น้ำทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- การทำค้างควรใช้วิธีการปักไม้ในกระถางหรือทำค้ำยันนอกกระถาง
การเก็บเกี่ยวมะระจีน
การเก็บเกี่ยวมะระจีนเราสามารถเก็บเกี่ยวผลได้ใน 40-50 วัน หลังจากเมล็ดงอก และสามารถเก็บผลได้ต่อเนื่องจนถึงระยะ 90 วัน โดยจะเก็บผลที่มีลักษณะสีเขียวอ่อน ซึ่งอยู่ในระยะพอดี เหมาะสำหรับการขายและส่งออก หากผลมีสีออกขาวถือเป็นระยะแก่ เนื้อจะหยาบ และอาจจะทำให้ผลมะระจีนของเราไม่อร่อย และคนไม่นิยมรับประทาน